การละเล่นพื้นบ้าน 4 ภาค

การละเล่นพื้นบ้าน 4 ภาค ของไทยมีมาช้านานตั้งแต่สมัยโบราณ

กีฬาพื้นบ้าน เป็นกิจกรรมที่มีการเล่นสืบทอดต่อกันมาแต่สมัยโบราณตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย การเล่นกีฬาพื้นบ้านในสมัยกรุงสุโขทัยมีจุดมุ่งหมายเพื่อฝึกฝนการต่อสู้ป้องกันตัวทั้งในลักษณะมือเปล่าและการใช้อาวุธโบราณ เป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการสงคราม นอกจากนี้ ยังเล่นเพื่อเป็นการสนุกสนานรื่นเริงในงานประเพณีต่างๆ นอกจากนั้นจะเล่นกันในงานเทศกาลรื่นเริง และเล่นในยามว่างจากงานสมัยกรุงสุโขทัย เรียกการเล่นกีฬาพื้นบ้านของไทยว่า “การละเล่น” ซึ่งเป็นคำเรียกรวมไปกับการเล่นร้องรำทำเพลง และขับระบำฟ้อนต่างๆในช่วงหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง แม้ประเทศจะมีการพัฒนาเจริญรุ่งเรืองขึ้นแต่การละเล่นพื้นบ้านไทยกลับซบเซาลง ปัจจุบันกีฬาและการละเล่นบางชนิดเหลืออยู่แต่ชื่อ ไม่สามารถค้นหาลักษณะรูปแบบและวิธีการเล่นได้ กีฬาพื้นบ้านและ การละเล่นท้องถิ่น ที่ยังพอมีเล่นอยู่ก็มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะรูปแบบและวิธีการเล่นไปมากมาย และยังคงมีเล่นกันอยู่ก็แต่เฉพาะในท้องถิ่นเท่านั้น กีฬาและ การละเล่นพื้นบ้าน 4 ภาค ของไทยทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้แต่รูปแบบ มีวิธีการเล่นที่แตกต่างกัน            

ประโยชน์ของการละเล่นพื้นบ้าน

ประโยชน์ของการละเล่นพื้นบ้าน เป็นกิจกรรมที่สืบทอดกันมาช้านาน เป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของไทย เป็นการแสดงออกถึงความสนุกสนาน ความสามัคคี และสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นอยู่ของผู้คนในแต่ละท้องถิ่น การละเล่นพื้นบ้าน ประโยชน์ มากมาย ดังนี้

  • เป็นการละเล่นที่สนุกสนาน ช่วยผ่อนคลายความเครียด การละเล่นพื้นบ้านส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมที่เล่นแบบง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ผู้เล่นสามารถสนุกสนานเพลิดเพลินไปกับการเล่นได้โดยไม่เครียด ช่วยผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานหรือเรียนหนังสือ
  • ฝึกทักษะการเคลื่อนไหวร่างกาย การละเล่นพื้นบ้านหลายประเภทต้องใช้การเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น วิ่ง กระโดด ตี ขว้าง ฯลฯ การละเล่นเหล่านี้ช่วยฝึกทักษะการเคลื่อนไหวร่างกายให้แข็งแรง ว่องไว และคล่องแคล่ว
  • ฝึกทักษะการคิด วิเคราะห์ และแก้ปัญหา การละเล่นพื้นบ้านบางประเภทต้องใช้ทักษะการคิด วิเคราะห์ และแก้ปัญหา เช่น การเล่นหมากเก็บ การเล่นมอญซ่อนผ้า  การละเล่นเหล่านี้ช่วยฝึกให้ผู้เล่นรู้จักคิดอย่างมีเหตุผล รู้จักวางแผน และสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้
  • ฝึกทักษะการทำงานเป็นทีม การละเล่นพื้นบ้านบางประเภทต้องเล่นเป็นทีม เช่น การเล่นชักเย่อ การเล่นว่าว ฯลฯ การละเล่นเหล่านี้ช่วยฝึกให้ผู้เล่นรู้จักทำงานร่วมกับผู้อื่น รู้จักการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และรู้จักการแบ่งหน้าที่
  • ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างเพื่อน การละเล่นพื้นบ้านเป็นกิจกรรมที่เล่นร่วมกันหลายคน การละเล่นเหล่านี้ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างเพื่อน ทำให้ผู้เล่นได้รู้จักเพื่อนใหม่ ได้ฝึกการอยู่ร่วมกัน และเรียนรู้ที่จะมีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่น
  • ส่งเสริมความเป็นไทย การละเล่นพื้นบ้านเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทย การละเล่นเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นอยู่ของผู้คนในแต่ละท้องถิ่น การละเล่นพื้นบ้านจึงควรได้รับการอนุรักษ์ไว้ เพื่อให้เด็กและเยาวชนรุ่นหลังได้สืบทอดต่อไป

ในปัจจุบัน การละเล่นพื้นบ้าน 4 ภาค เริ่มหาดูได้ยากขึ้น เนื่องจากเด็กรุ่นใหม่หันมาสนใจเทคโนโลยีมากขึ้น แต่ก็ยังถือเป็นการละเล่นพื้นบ้านที่มีคุณค่าควรอนุรักษ์ไว้ผู้ปกครองและครูควรส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้เล่นการละเล่นพื้นบ้าน เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้และซึมซับวัฒนธรรมไทยไปพร้อมๆ กับการเล่นสนุก

ภาคเหนือ

การละเล่นพื้นบ้าน 4 ภาค

ภาคเหนือพื้นที่เกือบทั้งหมดเป็นเทือกเขาเต็มไปด้วยป่าทึบ และป่าโปร่งมีที่ราบใหญ่น้อยระหว่างเขา ทำให้มีสายน้ำลำธารไหลผ่าน อันได้แก่ แม่น้ำปิง วัง ยม น่าน ผู้คนสามารถมาตั้งถิ่นฐานบ้านเมืองได้ ซึ่งจะมีลักษณะรวมตัวกันในระหว่างเขาเดียวกัน เป็นกระจุกตามแหล่งน้ำลำห้วยที่มีความอุดมสมบูรณ์ ภาคเหนือมีพื้นที่ติดต่อกับชนชาติอื่นอย่างหลากหลาย เช่น พม่า มอญ กะเหรี่ยง ละว้า ไทยใหญ่ และลาว เป็นต้น จึงเกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน ทั้งด้านภาษา ความเชื่อ ค่านิยม การแต่งกาย รวมถึงงานนักขัตฤกษ์ งานเทศกาล งานประเพณีต่างๆ กีฬาพื้นบ้าน การละเล่นภาคเหนือ และอื่นๆ ที่มีลักษณะตามแบบถิ่นเหนืออย่างหลากหลายด้วย เช่น

  • ปั่นหนังว้อง การปั่นยางวงที่ใช้รัดของ เป็นการเล่นของเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย เล่นโดยการจับคู่เล่นบนพื้นราบที่ไม่สกปรก เช่น พื้นเรือน หรือบนโต๊ะ
  • ซิกโก๋งเก๋ง โก๋งเก๋งเป็นกีฬาพื้นเมืองเก่าแก่ของชาวจังหวัดลำปาง สันนิษฐานว่าเป็นการเล่นเลียนแบบสัตว์ที่มีขายาว เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย ซึ่งเมื่อถึงหน้าน้ำหรือเมื่อมีบริเวณพื้นเฉอะ
  • ฯลฯ

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน)

การละเล่นพื้นบ้าน 4 ภาค

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ ภาคอีสาน มีพื้นที่กว้างใหญ่กว่าทุกภาค มีประชากรมากที่สุด คือประมาณ 1 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ พื้นดินส่วนใหญ่ไม่ค่อยสมบูรณ์ ไม่สะดวกสบายในการตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนนัก เป็นที่ราบสูง ที่ดอนสูง และห่างไกลจากทะเล พื้นดินเป็นดินทรายไม่อุ้มน้ำ ทำให้ดินดูแห้งแล้งยาวนานกว่าภาคอื่น แม่น้ำโขง ชี มูล เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดินเค็ม ปลูกพืชพันธุ์ต่างๆ ไม่ค่อยงอกงาม หน้าหนาวมีอุณหภูมิต่ำ หน้าร้อนร้อนจนแล้ง เพราะ ภูมิประเทศ และภูมิอากาศที่มีความแตกต่างกันมาก จึงเป็นปัจจัยกดดันให้สิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติต้องปรับตัวตามไปด้วย คนภาคตะวันออกเฉียงเหนือจึงต้องปรับตัวตาม ประเพณี ความเชื่อ งานนักขัตฤกษ์ งานเทศกาลต่างๆ จึงมักเกี่ยวพันกับสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ เช่น งานบุญบั้งไฟ งานบุญคุณลาน งานบุญข้าวใหม่ เป็นต้น

พื้นที่บางส่วนติดกับลาวและกัมพูชา จึงเกิดการถ่ายทอดวัฒนธรรมซึ่งกันและกันทั้งด้านประเพณี ความเชื่อ การแต่งกาย พิธีกรรม งานเทศกาล งานละเล่น เกม การละเล่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะแสดงให้เห็นลักษณะเฉพาะตัวของคนอีสาน การละเล่นพื้นบ้านภาคอีสานที่นิยมเล่นกัน ได้แก่

  • วิ่งขาโถกเถก กีฬาขาโถกเถกเป็นการเลียนแบบการแก้ไขในชีวิตประจำวันของคนภาคอีสานสมัยก่อนเล่นได้ทุกโอกาสในเวลาว่าง ส่วนมากจะเล่นกันในงานประจำปี  หรืองานประเพณีต่างๆ  และนิยมเล่นตอนกลางคืนในช่วงฤดูหนาว 
  • แข่งเกวียน เป็นการเลียนแบบชีวิตประจำวันของชาวบ้านทางภาคตะวันนออกเฉียงเหนือ ซึ่งใช้โคเทียมเกวียนเป็นพาหนะ  ต่อมาจึงดัดแปลงมาเป็นกีฬาการละเล่นออกกำลังกายและเป็นการสนุกสนานรื่นเริงในงานประเพณีต่างๆ  เชื่อว่ากีฬาแข่งเกวียนน่าจะเป็นกีฬาที่เก่าแก่ชนิดหนึ่ง
  • แข่งเรือบก นอกจากจะเป็นการออกกำลังขาแล้วยังสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ สร้างความสนุกสนาน การแข่งเรือบกจะเล่นกันในพื้นที่ ๆ ไม่มีแม่น้ำไหลผ่าน
  • ฯลฯ

ภาคกลาง

การละเล่นพื้นบ้าน 4 ภาค

ภาคกลางพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำ เหมาะแก่การทำเกษตร และการประมงน้ำจืด เป็นดินแดนแห่งอารยธรรมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณทำให้มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์เช่น ภาพวาดในวัดที่สื่อความหมายอย่างชัดเจน และมี การละเล่น ภาคกลาง ที่เล่นกันในยามว่าง หรือหลังจากฤดูการทำงานเสร็จสิ้น การละเล่นพื้นบ้านภาคกลางที่นิยมเล่นกัน ได้แก่

  • หมากเก็บ เป็นการเล่นโดยใช้เม็ดกระดุมหรือลูกปัดจำนวน 5 เม็ดเรียงเป็นแถว ผู้เล่นใช้นิ้วมือหยิบเม็ดกระดุมขึ้นมาวางไว้บนนิ้วมือ แล้วใช้นิ้วมืออื่นจับเม็ดกระดุมอีก 4 เม็ดให้ลอยอยู่ในอากาศ แล้วใช้นิ้วมืออีกข้างหยิบเม็ดกระดุมที่วางไว้บนนิ้วมือมาวางไว้บนนิ้วมืออีกข้างหนึ่ง ผู้เล่นจะต้องพยายามไม่ให้เม็ดกระดุมที่ลอยอยู่ในอากาศหล่นลงพื้น
  • มอญซ่อนผ้า เป็นการเล่นซ่อนหา โดยผู้เล่นคนหนึ่งเป็นผู้หา ผู้เล่นคนอื่นๆ จะซ่อนตัวตามจุดต่างๆ ผู้เล่นคนแรกที่เป็นผู้หาจะต้องหาผู้เล่นคนอื่นๆ ให้เจอ โดยเรียกชื่อผู้เล่นที่พบ ผู้เล่นที่พบจะต้องออกมาเป็นผู้หาแทน
  • รีรีข้าวสาร เป็นการเล่นโดยใช้ข้าวสารหรือเมล็ดพืชอื่นๆ ใส่ในกระจาดหรือกะลามะพร้าว ผู้เล่นจะนั่งเรียงกันเป็นแถว ผู้เล่นคนแรกจะจับกระจาดหรือกะลามะพร้าวไว้แล้วแกว่งไปมา ผู้เล่นคนอื่นๆ จะพยายามใช้มือตักข้าวสารหรือเมล็ดพืชใส่มือ ผู้เล่นคนใดตักข้าวสารหรือเมล็ดพืชได้มากที่สุด จะเป็นฝ่ายชนะ
  • กระโดด ข้ามกะลา เป็นการเล่นโดยใช้กะลามะพร้าววางเรียงกันเป็นแถว ผู้เล่นจะต้องกระโดดข้ามกะลาทั้งขาเดียว โดยให้กะลาแตะที่เท้าเพียงครั้งเดียว ผู้เล่นคนใดกระโดดข้ามกะลาแล้วกะลาไม่แตะที่เท้า จะต้องออกจากเกม
  • ลูกข่าง เป็นการเล่นโดยใช้ลูกข่างที่ทำจากไม้หรือพลาสติก ผู้เล่นจะต้องขว้างลูกข่างให้หมุนไปข้างหน้า ผู้เล่นคนใดขว้างลูกข่างให้หมุนได้นานที่สุด จะเป็นฝ่ายชนะ
  • ฯลฯ

ภาคใต้

การละเล่นพื้นบ้าน 4 ภาค

ภาคใต้ มีลักษณะภูมิประเทศเป็นแผ่นดินยื่นแหลม มีทะเลขนาบทั้งสองด้าน ลักษณะภูมิอากาศมีฝนตกชุกนาน 5-6 เดือนต่อปี จึงเหมาะแก่การทำไร่ ทำสวน ทำนา เนื่องจากภาคใต้มีอาณาเขตติดต่อกับชนชาติพม่า รามัญ มลายู แขกสิงหล แขกชวา จึงเป็นแหล่งติดต่อค้าขาย แลกเปลี่ยน

วัฒนธรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง แนวคิด ความเชื่อ ขนบธรรมเนียมประเพณี ค่านิยม งานเทศกาล งานรื่นเริง การละเล่นท้องถิ่น และ กีฬาพื้นบ้าน ภาคใต้ จึงมักผูกพันธ์กับภูเขา ต้นไม้ ทะเล ธรรมชาติ และชนชาติต่างๆ ที่หลากหลายของภาคใต้ กีฬาพื้นบ้านภาคใต้ที่นิยมเล่นกัน ได้แก่

  • วัวชน เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในภาคใต้ เป็นการแข่งขันระหว่างวัวสองตัวที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดี วัวชนเป็นกีฬาที่ต้องใช้ความอดทน ความกล้าหาญ และทักษะในการต่อสู้ของวัว
  • ชนหญ้าขี้เตรย เป็นกีฬาที่คล้ายคลึงกับวัวชน แต่ใช้วัวที่มีอายุน้อยกว่า และชนกันบนพื้นดินที่มีหญ้าขี้เตรยปกคลุมอยู่
  • ซีละ เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมในจังหวัดสตูล เป็นการแข่งขันระหว่างสองทีม แต่ละทีมมีผู้เล่น 12 คน ผู้เล่นจะใช้เท้าเตะลูกบาสเก็ตที่ทำจากกะลามะพร้าวให้ลงสู่ห่วง
  • หมากขุม เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมในจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นการแข่งขันระหว่างสองทีม แต่ละทีมมีผู้เล่น 4 คน ผู้เล่นจะใช้ไม้ขุดเพื่อขุดลูกมะพร้าวให้ลงสู่หลุม
  • การแข่งขันว่าวประเพณี จังหวัดสตูล เป็นการแข่งขันว่าวของภาคใต้ที่มีความสวยงามและประณีต ว่าวที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ว่าวจุฬา ว่าวปักเป้า ว่าวมังกร ว่าวนกยูง
  • ฯลฯ